Siam inter book
ดิฉันรู้ดีว่างานเขียนนวนิยายกำลังภายในเป็นความฝันที่ล้าสมัยแล้ว แต่ดิฉันยังคิดสานฝันรายนี้ ขออุทิศแรงกายแรงใจ เพื่อสร้างสรรค์กำลังภายใน หวังว่าสามารถเขียนนวนิยายกำลังภายในแบบแผนมาตรฐานที่ชวนติดตามสักเรื่องหนึ่ง ปัจจุบันเธอมีบุตรชายบุตรสาวรวมสี่คน หากยังใช้นามปากกาเจิ้งฟงท่องผาดโผนในยุทธจักร
จิ่วถูแปลตรงตัวว่าสาวกสุรา เป็นชาวมองโกเลีย เกิดเมื่อปีคศ. 1974 ที่เมืองชื่อเฟิง ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันออกของเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน จิ่วถูสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยตงหนันภาควิชาวิศวไฟฟ้า เคยทำงานติดตั้งและซ่อมบำรุงพลังงานไฟฟ้าหลายปี เหยียบย่ำไปในและนอกกำแพงเมืองจีน จึงจดบันทึกสิ่งที่ได้ยิน ได้เห็น และได้คิดเอาไว้ จนกลายเป็นวัตถุดิบในการเขียนนวนิยายปัจจุบันพำนักที่เมืองเมลเบอร์นประเทศออสเตรเลีย ก่อนหน้านี้มีผลงานเรื่องฉินหมิง จื่อหนันลู่ เมื่อเขียนเรื่องสุยล่วน (ยุทธการล่าบัลลังก์) ก็โด่งดังราวกับพลุ อีกทั้งยังเป็นผผู้จุดประกายงานเขียนนิยายอิงประวัติศาสตร์ขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ จนมีนักเขียนอื่นเขียนตามอีกมากมาย
ผลงานยุคแรกๆ ของหวงอี้ค่อนข้างจะหวือหวาและเต็มไปด้วยบทอีโรติคจนในที่สุดเขาก็พบแนวที่เหมาะสมที่สุด นั่นคือแนวการเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ผสมผสานไปกับนิยายกำลังภายใน ซึ่งถือว่าเป็นความแปลกใหม่และได้จุดกระแสความนิยมขึ้นในหมู่นักอ่านทั้งฮ่องกง ไต้หวัน มาเลเซีย สิงคโปร์ หวงอี้ เป็นผู้บุกเบิก เส้นทางสายใหม่ให้กับวงการนวนิยายจีน ผลงานของเขาหลอมกับเหตุการประวัติศาสตร์ เข้ากับจินตนาการได้อย่างลงตัว ผลงานของหวงอี้ยังได้รับการแปลเป็นหลายภาษาทั่วเอเชีย ได้รับการยกย่องว่าเป็น “ เทพอักษราแห่งบูรพาทิศ ” หวงอี้เสียชีวิตด้วยเส้นเลือดในสมองอักเสบ เมื่อเดือนเมษายน 2560 ที่ผ่าน ทิ้งไว้ซึ่งผลงานอันทรงคุณค่ามากมายในบรรณพิภพ
ผลงานของอุนสุยอัน นับว่ามีสไตล์เฉพาะตัว แฝงปรัชญาความคิด เน้นด้านอารมณ์ความรู้สึก มีความคล้ายคลึงกับผลงานของโก้วเล้ง หากแต่บทบู๊ค่อนข้างเหี้ยมโหด โดยเฉพาะงานยุคหลังที่บทบู๊เลิศพิสดาร เดินเรื่องกระชับฉับไว หักมุมอย่างคาดไม่ถึง นับว่าเป็นเอกลักษณ์ของนักเขียนท่านนี้ ผลงานหลายเรื่องของอุนสุยอัน ได้รับความนิยมอย่างสูง ทั้งถูกนำไปสร้างเป็นละครโทรทัศน์นับครั้งไม่ถ้วน ทั้งยังถูกดัดแปลงเป็นการ์ตูน ล้วนแต่ได้รับความนิยมทั้งสิ้น
ช่วงที่ว่างจากงานสอน จะเปิดยูทูปมองหาดาราจีน แล้วก็สะดุดตากับสุดหล่อหลิวข่ายเวย เพราะความคลั่งไคล้ จึงหัดทำซับไทยใส่คลิปแล้วอัพลงยูทูปแบ่งชาวบ้านดู จากนั้นก็ต่อด้วยซับไทยเรื่องกระบี่เย้ยยุทธจักร2013 ซึ่งประสบความสำเร็จเกรียวกราว ได้รับทั้งดอกไม้ทั้งก้อนหินและบิลค่าไฟที่พุ่งกระฉูด... วันหนึ่งของปี2014 อัศวินม้าขาวก็ปรากฏ น้องอรจิราผู้แปลเจาะมิติพิชิตบัลลังก์ได้ชักชวนให้มาแปลนิยายจีนกับสยามอินเตอร์บุ๊คที่มีบก.หล่อที่สุดในสามภพ ประเดิมด้วยเรื่องมหายุทธล้างปฐพี ตามด้วยเรื่องบุรุษบูรพาทำเนียบหลางหยา
ผู้แปลเป็นอีกผู้หนึ่งที่ชื่นชอบนิยายจีนแนวกำลังภายในและแนวอิงประวัติศาสตร์ และในประเทศไทยก็มีผู้อ่านอีกเป็นจำนวนมากที่ติดตามนิยายจีน ซึ่งหนังสือนิยายจีนเหล่านี้มีเนื้อหาที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและแฝงข้อคิดเชิงปรัชญา เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่มีใจรักในการอ่านชาวไทย แม้บนเส้นทางของนักแปลจะพบเจออุปสรรค ทางด้านความแตกต่างทางด้านภาษาอยู่บ้าง แต่ด้วยความเชื่อ ความมุ่งมั่นที่จะทำในสิ่งที่รัก พยายามถ่ายทอดเนื้อหาให้ใกล้เคียงกับต้นฉบับให้มากที่สุด และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านชาวไทยทุกคนจะได้รับความสนุกสนาน ความรู้ และความสุขไปพร้อม ๆ กับผู้แปลด้วยเช่นกัน
ความภาคภูมิใจมากที่สุดของ น.นพรัตน์ ก็คือสามารถแปลผลงานของกิมย้ง ได้ครบทั้ง 15 เรื่อง ทั้งแปลงานของโก้วเล้ง ได้มากกว่าผู้แปลท่านอื่น ๆ ด้วย งานแปลชิ้นสุดท้ายที่ทั้ง อานนท์ และ อำนวย มีส่วนร่วมด้วยกันคือเรื่อง เจาะเวลาหาจิ๋นซี งานเขียนของหวงอี้ หลังจากนั้นไม่นานนัก น.นพรัตน์ผู้พี่ อานนท์ ภิรมย์อนุกูล ก็เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 02.45 น. ของวันที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2543 ด้วยอาการป่วยเป็นโรคมะเร็งโพรงจมูก ศิริรวมอายุได้ 52 ปี แม้ว่า อานนท์ ภิรมย์อนุกูล จะได้จากไปแล้ว แต่นามปากกา น.นพรัตน์ ก็ยังคงอยู่ต่อไป และ อำนวยภิรมย์อนุกูล ก็ยังจะสร้างสรรค์ผลงานการแปลยุทธจักรนิยายกำลังภายในต่อไป...
ชื่อ รุ่งอรุณ สินธทียากร ชื่อเล่นคือหน่อย มีพี่น้องทั้งหมด 14 คน หน่อยเป็นลูกคนที่ 13 มีพี่ชาย 9 คน พี่สาว 3 คน และน้องสาว 1 คน เนื่องจากชอบดูละครจีน(ดาราชายหน้าตาดี ทำให้อารมณ์ดี) จึงขออาสาน้องๆพี่ๆที่เขาแปลหนังจีนอยู่ ลองแปลดูบ้าง จนพี่ลี (ลี หลินลี่) แนะนำงานแปลบทพากย์ละครจีนมาให้ หลังจากนั้นก็แนะนำให้ทดสอบแปลนิยายกับสยามอินเตอร์ ผ่านคุณต่อ (บก.หนุ่มอารมณ์ดี) จนได้มีโอกาสแปลเรื่องยอดยุทธ์พิภพเทวะ
หลงรักการแปล เพราะการแปลคือการถ่ายทอด คือความยากที่ซ่อนอยู่ในความง่าย คือการได้ให้และได้รับ ทั้งรู้สึกได้เป็นตัวของตัวเอง รู้สึกสนุกเวลาได้อ่าน ได้ศึกษา ได้ค้นคว้า ได้ถ่ายทอด ได้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของภาษาที่เรารักทั้งสองภาษา ทำงานแปลด้วยความเชื่อที่ว่าหากทำอะไรด้วยใจรัก มักทำได้ดีเสมอ ความรักในสิ่งที่ทำจะช่วยให้พยายามโดยไม่ต้องฝืน ทำให้สนุกเพลิดเพลินโดยไม่เหน็ดเหนื่อย ขงจื๊อกล่าวไว้ “ผู้รู้ในงานที่ทำไม่สู้ผู้รักในงานที่ทำ ผู้รักในงานที่ทำไม่สู้ผู้มีความสุขกับงานที่ทำ” เพราะงานแปลจึงทำให้เราได้เป็นทั้งผู้รู้ ผู้รัก และผู้มีความสุขไปพร้อมกัน...